คาถาความจำดี
"เวทาสากุ กุสาทาเว ทายะสาตะ ตะสายะทา ทาสาทิกุ กุตะกุภู ภูกะตะกุ"
คาถาพระสุนทรีวาณี (คาถาความจำดี)
คาถาพระสุนทรีวาณี
ตั้ง นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)
มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะสัมภะวะ สุนทะรีปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะยะตัง มะนังฯ
ตั้ง นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)
มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะสัมภะวะ สุนทะรีปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะยะตัง มะนังฯ
" สหัสเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง วิโสทายิ"
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ
คาถาของท่านปู่พระอินทร์
สะ-หัส-สะ-เนต-โต เท-วิน-โท ทิพ-พะ-จัก-ขุง วิ-โส-ทา-ยิ
คือองค์คาถาหลัก
หลายท่านต่อด้วย
อิ-กะ-วิ-ติ พุท-ธะ-สัง-มิ โล-กะ-วิ-ทู
จากคุณ คนเก่า
รวมคาถาช่วยเรียนเก่ง
คาถารวมจิต
อิติ สัมมาสัมพุทธัสสะ มะมะ จิตตัง
เมื่อใดที่จิตเกิดอาการฟุ้งซ่านขึ้นมา ให้ทิ้งคำภาวนาอย่างอื่นเสียให้หมด
กำหนดลมหายใจเข้าออก ว่าคาถานี้ตามสบายๆ กำลังของสมาธิจะรวมตัวได้รวดเร็ว
พระคาถาไหว้ครูอาจารย์ เพื่อส่งเสริมการเรียน
ยันหา ธัมมัง วิชาเนยยะ สัมมาสัมพุทธะเทสิยัง สักกัจจัง
ตัง นมัสเสยยัง อัคคิหุตตังวะ พราหมโณติฯ
คาถาพระอินทร์
(จากหนังสือสมบัติพ่อให้ หน้า207 - 208)
สหัสสเนตโต เทวินโท ทิพพจักขุง วิโสทายิ(ท่อง 7 จบ)
อีกอย่างคือเวลาอยู่ในห้องสอบ ให้ลองทำดูก่อน ว่าทำได้ไหม ถ้าไม่ได้ ก็ให้คว่ำกระดาษข้อสอบลง แล้วนึกถึงพระพุทธเจ้า นึกถึงพระอินทร์ ท่องนโม 3 จบ แล้วท่อง "สหัสสเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง วิโสทายิ" 3 ครั้ง แล้วหงายกระดาษขึ้นมาดูข้อสอบว่าทำได้หมดไหม ถ้าไม่หมด คว่ำกระดาษไปใหม่ นึกถึงพระพุทธเจ้า นึกถึงพระอินทร์ ท่องนโม 3 จบ แล้วท่อง "สหัสสเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง วิโสทายิ" อีก 7 จบ แล้วหงายกระดาษขึ้นมา คราวนี้ไม่ต้องดูแล้ว ให้ตอบตามความรู้สึก ผลก็เป็นไปตามนั้น
คาถาเรียนดีมีความจำเลิศ
สักโก โอสะถัง พุทธโกสาจะ ธัมมัง ลังกายัง
สีหะกะฬะภาสา พะหูลาภา พะหูปัญญา พะหูสิงเห ปะสิทธิเมฯ
พระคาถาทำให้ปัญญาว่องไว
ปัญญาจิตตัง สิเนหัง พันธัง สะวาหุมฯ ครบ ๓ จบ
คาถาเสกหมากกินมีปัญญา
โอม เตระอุตตะมัง วะลังวะระ
มาหาปัญโญ สะวาโหมฯ
พระคาถาบริกรรมก่อนเข้าห้องสอบ สมองใส
โอม ปุ ปะ ทะ ลุ ทัน ตา
ปัญญาโมกขัง อะระหัง บังเกิดฯ
คาถาตะกรุดเปิดสมอง
นะโปร่ง นะปุ นะทะลุปัญญา
พระคาถาอิติปิโสรัตนมาลา บทที่ 11
สัญจะยังปาระมิงสัมมา สังขารานังขะยังกัต๎วา
สัญจิต๎วาสุขะมัตตะโน สันตะคามิงนะมามิหังสำหรับบทนี้ ตำรับกล่าวชี้ ว่าดีจริงสำหรับเสกยา ปัญญาดียิ่ง สุดจะหาสิ่ง ใดมาเปรียบปาน
<!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
<!--[endif]-->
คาถาปัญญาดี
สุ จิ ปุ ลิ (หัวใจนักปราชญ์)
โอมปุปุ ทะลุปัญญา ปัญญาปุปุฯ
ปุปุ ทะลุปัญญา พุทธชักมา พาคิดได้
อัธยังยะ สว่างวะดังดวงแก้ว
โอม ปุปุ ทะลุปัญญาพุทธโลกานุกัมปกาติ
โอมปุปุ ทะลุปัญญา ทะลุโลกา ปัญญาปุปุ
นะ ปะติ ปรุ ลุทันตา พุท ธะ รู ปา เอหิ ปัส สิ โถ
คาถาพระสุนทรีวาณี(คาถาเรียกความจำ)
มุนินทะ วะทะนัมโพชะ คัพภะสัมภะวะ สุนทรี ปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปีณะยะตังมะนังฯ
นาง ฟ้า คือพระไตรปิฎก อันเกิดจากดอกอุบล คือพระโอฏฐ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งพำนักของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอจงยังใจของข้าพเจ้าให้เอิบอิ่มปรีดาปราโมทย์ รู้แจ่มแจ้งแทงตลอดจำได้ซึ่งพระไตรปิฏกทั้งโลกิยะและโลกุตระ หรือเรื่องราวทางโลก-ทางธรรม ให้ทวนกลับมาในห้วงสัญญา ด้วยเทอญฯ
<!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
<!--[endif]-->หัวใจมุตโต (ปัญญาแตกฉาน)
มุตโต มุตตัง อะระหังพุทโธ สะหัสสะเนตโต เทวินโททิพพะจักขุงวิโสธายิ
ของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์ฝ่ายกัมมฐาน
วิธี ใช้ ตั้งจิตระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ คุณเทวดาคุณพรหม และหลวงปู่มั่นเป็นที่สุด แล้วอธิษฐานดังนี้ ด้วยเดชะอานุภาพบารมีของพระทั้งหลายขอให้ข้าพเจ้ามีสติปัญญาผ่องใสสามารถ เล่าเรียนหรือทรงจำความรู้ได้ว่องไวคล่องแคล่วแตกฉานแม่นยำ สิ่งใดที่ยังไม่รู้ก็ขอให้รู้แจ้งโดยไว สิ่งใดที่รู้แล้วก็ขอให้จำได้อย่างแม่นยำอย่าได้ลืมเลือนด้วยเถิด สาธุ
คาถาปัญญาดีโบราณ ของหลวงปู่มั่น
(ตั้งนะโม 3 จบ) อะอิงอ้อ อ้อสูตร อ้อเขียน อ้อเรียน อ้อมัด อ้อคัดหัวใจ อ้อไขเห็นดูก อ้อผูกเห็นเงา อ้อเกาเห็นยอด อ้อขอดเห็นใบ นะจำจิต โมจำใจ พุทจำไว้ ทาจำให้ อย่าให้หลงลืม นะโมพุทธายะ (ท่อง 3 จบหรือ 7 จบ)
คาถานี้หลวงปู่ทองฤทธิ์ วัดป่าฉันทนิมิต ซึ่งเดิมท่านเป็นคนปัญญาไม่ดี อายุ 7 ขวบยังอ่านหนังสือไม่ได้ เขียนก็ไม่ได้อีก หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เสกข้าวปั้นให้กินทุกวัน จนท้ายที่สุด หลวงปู่ทองฤทธิ์ กลายเป้นคนที่มีปัญญาฉลาดว่องไว ก่อนหลวงปู่มั่นมรณะภาพ ท่าเขยนใส่ใบลานลอดใต้ถุนให้ หลวงปู่ทองฤทธิ์หลวงปู่ทองฤทธิ์จึงเอาคาถานยี้มอบให้อาจารย์ชินพรทำตะกรุดอ้อป่อง
พระคาถาทะลุปัญญา(หลวงปู่มั่น)
โอม ปุปุ ทะลุปัญญา พุทธรูปปะ เอหิ มะมะ
เป็นพระคาถา ทะลุปัญญา เป็นคาถาที่หลวงปู่มั่นใช้เสกข้าว กิน
ท่านว่ามีปัญญา มาก เป็นพระคาถากินแล้วเจริญปัญญา แคล้วคลาดปลอดภัย
คาถาสารพัดนึก
พระพุทธเจ้า ทานะปาระมี สีละปาระมี เนกขัมมะปาระมี ปัญญาปาระมี วิริยะปาระมี ขันติปาระมี สัจจะปาระมี อธิษฐานะปาระมี เมตตาปาระมี อุเบกขาปาระมี ทานะอุปปะปาระมี สีละอุปปะปาระมี เนกขัมมะอุปปะปาระมี ปัญญาอุปปะปาระมี วิริยะอุปปะปาระมี ขันติอุปปะปาระมี สัจจะอุปปะปาระมี อธิษฐานะอุปปะปาระมี เมตตาอุปปะปาระมี อุเบกขาอุปปะปาระมี ทานะปะระมัตถะปาระมี สีละปะระมัตถะปาระมี เนกขัมมะปะระมัตถะปาระมี ปัญญาปะระมัตถะปาระมี วิริยะปะระมัตถะปาระมี ขันติปะระมัตถะปาระมี สัจจะปะระมัตถะปาระมี อธิษฐานะปะระมัตถะปาระมี เมตตาปะระมัตถะปาระมี อุเบกขาปะระมัตถะปาระมี บารมี ๓๐ ทัศ
อานิสงค์ : สารพัดนึก
สวดให้ปัญญาดี
สัพเพพุทธามหาเตชามหาปัญญามหัพพลา
เตสาหํสิรสาปาเทวันทามิปุริสุตตเม
คำแปล: "พระพุทธเจ้าทั้งหลายผู้มีเดชยิ่งใหญ่ มีกำลังยิ่งใหญ่
ข้าพเจ้าขอนมัสการพระบาทของพระพุทธเจ้าทั้งหลายด้วยเศียรเกล้า"
หมายเหตุ 1.) ความในบทมนต์นี้มีคำที่อ้างถึงปัญญาของพระพุทธเจ้าและนมัสการด้วยเศียรเกล้าซึ่งเป็นการเคารพต่อปัญญาผลสะท้อนอาจจะมีมาช่วยปัญญาของเราได้ 2.) เป็นมนต์ใน "อาฎานาฏิยปริต"
าถามีอยู่ว่า "อะอิงอ้อ อ้อสูตรอ้อเขียน อ้อเรียนอ้อมัด อ้อคัดหัวใจ อ้อไขเห็นดูก อ้อผูกเห็นเงา อ้อเกาเห็นยอด อ้อขอดเห็นใบ นะจำจิต โมจำใจ พุทจำไว้ ทาจำให้ อย่าให้ลืมหลง" (ตั้งนะโมสามจบ แล้วท่อง 3 หรือ 7 จบ พร้อมเป่ากับข้าวเหนียวปั้นฮ้อน ๆ เวลาส่ายข้าวแล้วกะกลั้นใจกิน) ทุกมื้อ ผมเคยใช้ได้ผลมาแล้วลองเบิ่งเด้อครับ
โอม พุทธะ จักขุ, ธรรมะ จักขุ, ทิพพะ จักขุ,
สว่าง ลุ ลุ, มืด ล่วง ล่วง, ตื่นรู้ ตื่นเบิกบาน
ขอพระสายธาร, ล้างความมืดไป สาธุ สาธุ
ให้เสกน้ำล้างหน้าตอนตื่นนอนทุกเช้า จะทำให้ความมืดมน ฝันร้าย ความหม่นหมอง ความเศร้าซึม ความง่วงงัวเงียหมดไป ทำให้จิตแจ่มใส ตื่นรู้เบิกบาน กระฉับกระเฉง ทำทุกวันตอนเช้า ทำให้ตื่นนอนสดใส สว่างไสว มีปัญญาเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน ดีนักแล
คาถาเสน่ห์ปลายจวัก ปรุงอาหารให้มีรสอร่อย
“โอม แม่ศรีครัวเอย ปรุงรสอาหาร
เลี้ยงผัว เลี้ยงเมีย เลี้ยงลูก เลี้ยงหลาน
กินแล้วเบิกบาน จักคลานกลับบ้าน สำราญใจเอย”
ให้เอาตะหลิว-ทัพพีคนพร้อมบริกรรมว่าคาถานี้จนจบขณะปรุงอาหาร ลูกผัวกินแล้วติดใจ ไม่ออกไปหาอาหารกินนอกบ้าน ถึงเวลากิน จำต้องระลึกนึกถึง แทบคลานเข้าบ้าน หากลูกผัวกินแล้วบ่นว่า ให้เงียบไว้ แต่ถ้าชมให้ระลึกนึกถึงแม่ศรีครัว แล้วจักทำครัวเก่งขึ้นๆ
คาถาลงนะเมตตา เสกเสื้อผ้าเพื่อสวมใส่
โอม พุทธะ จิตติ ประสิทธิ เม
พรหมมา กายา ประสิทธิ เม
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
นะ เมตตา มหานิยม, โอม ละลวย มหาละลวย, สาธุ สาธุ
จิตแห่งข้า, จะเป็นพุทธะ, เป็นพระประธาน, อยู่ในวิหาร
วิหารกายเนื้อแห่งข้า, จักเป็นวิหารแห่งพรหม
พุทธะ มามา, พรหมมา มามา, หลอมรวมจิตข้า,
ให้เป็นหนึ่งเดียว, ใครเห็นใครรัก, ใครเห็นใครเหลียว
เมตตา กลมเกลียว, มีคุณเห็นค่า, มีโทษผ่อนเบา
ข้าหลอมรวมเอา, เมตตามหานิยม, สมดั่งใจข้า สาธุ สาธุ
ให้บริกรรมคาถานี้ ก่อนสวมเสื้อผ้า นำเสื้อผ้ามายกขึ้นไหว้กล่าวคาถา แล้วค่อยสวมใส่ เพื่อเมตตามหานิยม ใครเห็นเข้ารักใคร่ชอบพอให้ความเมตตาช่วยเหลือเราดีนักแล
คาถาลงนะ เปิดตำราใหม่ให้อ่านได้เข้าใจดี
นะ เปิดจิต
โม เปิดใจ
พุทธ พิจารณา
ธา น้อมรับไว้
ยะ ใจนิ่งหนึ่งเดียว
ข้าขอเดชเดชะ, แห่งพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์, ในภัทรกัป
จงดลบันดาลให้ข้า, เปิดจิต เปิดใจ รับความรู้ใหม่ในตำรา
มีโยนิโสมนสิการ พิจารณาโดยแยบคาย, มีโอปนยิโก น้อมจิตรับไว้
มีเอกัคตารมณ์ สมาธิแน่วแน่ในการศึกษา, ขอความรู้อย่าได้เคลื่อน
ปัญญาอย่าได้คล้อย, อย่าได้มีความจำเสื่อมถอย, สมองอย่าได้มืดทึบ
ขอจงให้ข้ามีความเข้าใจง่าย, ความจำดี, ความคิดทะลุทะลวง, ลุล่วง, สำเร็จการศึกษา สมใจปรารถนาด้วยเทอญ, สาธุ
ให้ว่าคาถานี้ ก่อนเปิดหนังสือตำราใหม่ใดๆ ทุกเล่ม หากเป็นหนังสือเก่าที่เคยเปิดแล้ว ให้ห่อปกใหม่แก้เคล็ดก่อน ค่อยว่าคาถา ให้ผลความเข้าใจง่าย จำดี ศึกษาตำรามีปัญญาเฉลียวฉลาดดีนักแล (ควรว่าคาถานี้เมื่อได้รับหนังสือใหม่ทุกเล่มจักดีนัก)
คาถาลงนะ ประสิทธิ์กำลังลงในเครื่องมือเครื่องใช้
นะ ฉันทะ
โม วิริยะ
พุทธ จิตตะ
ธา วิมังสา
ยะ หลอมรวมกำลัง
ข้าขอเดชเดชะ, แห่งพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์, ในภัทรกัป
อีกทั้งอิทธิบาทธรรม, จงหลอมรวมกำลังในเครื่องมือเครื่องใช้ข้า
ขอให้การงานทั้งหลาย จงสำเร็จเร็วพลัน อย่าได้มีอุปสรรคขวางกั้น
อย่าได้มีติดขัด, คิดการณ์งานใด, จักต้องสำเร็จ, สำเร็จ สำเร็จ
สมดังใจหมายด้วยเทอญ สาธุ
ให้บริกรรมคาถาลงนะ ในเครื่องมือเครื่องใช้ได้ทุกชนิดก่อนการใช้งานทุกครั้ง เมื่อได้เครื่องมือเครื่องใช้มาใหม่ หรือเพิ่งแกะกล่อง แกะห่อ ให้ลงนะอิทธิบาทสี่ตัวนี้ ทำการณ์งานใด จะเจริญรุ่งเรือง สำเร็จลุล่วง สมดังใจหมาย ไร้อุปสรรคติดขัดใดๆ ทั้งปวงเทอญ
คาถาสอนลูกหลาน พูดแล้วให้เชื่อฟังสอนง่าย
“โอม พระธรณีหนักแน่น พระคงคาเยือกเย็น พระวาโยน้อมไป พระเตโชสว่างไสว
ขอให้ใจของข้า หนักแน่น เยือกเย็น น้อมไป สว่างไสว
ว่ากล่าวใดๆ ให้ลูกหลานเชื่อฟัง สาธุ สาธุ”
ให้บริกรรมคาถานี้ในใจ ก่อนจะออกปากว่ากล่าวติเตียน สอนลูกสอนหลาน ให้เลือกช่วงเวลาที่ตนเองใจเย็นลงแล้ว ไม่มีความโกรธ มีความหนักแน่น ลูกหลานเถียงตอบไม่หวั่นไหว สามารถโน้มน้าวให้คนเชื่อง่าย เห็นทางสว่าง ชี้ทางออกแนะนำลูกหลานได้ จึงกล่าวสอนเตือน ยังผลให้ลูกหลานเชื่อฟัง เคารพนบนอบ เป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย
คาถาเปิดตาปัญญาซื้อของ ได้ของดีถูกใจ
“โอม พุทธธะ จักขุ ธรรมมะ จักขุ ปัญญา จักขุ
ปัญญา ลุ ลุ, เลือกซื้อ ล่วง ล่วง, ของไม่ดีอย่าเลือก
ของสิ้นเปลืองอย่าเอา, ของเสียของเน่าอย่าซื้อ,
ของเกินถืออย่าเสี่ยง, ของมีแล้วให้เลี่ยง, ของสิ้นเปลืองให้รอ
ขอ พุทธะเปิดตา ธรรมะ เปิดใจ เห็นแจ้งแถลงไข เลือกดีเลือกได้ ดั่งใจข้าเทอญ”
เวลาไปซื้อของ ของที่วางขายมากมาย มีทั้งส่วนที่มีเวทย์มนต์ลงไว้ ส่วนที่มีพลังด้านลบปกคลุม ให้บริกรรมว่าคาถานี้ก่อน เพื่อเปิดตาทิพย์ดูสิ่งของที่เขาขาย จนได้สติ เห็นว่าควรซื้อหรือไม่ควรซื้อ จึงค่อยตัดสินใจซื้อ จักได้ของดีถูกใจ ซื้อกลับบ้านไป ไม่เสียดายเงิน ไม่ซื้อของที่ไม่จำเป็น ไม่ซื้อของที่ไม่ตั้งใจจะซื้อ เพราะมนต์คนขาย ขลังดีนักแล
คาถาเปิดประตูเข้าบ้าน นำพาความสิริมงคลเข้ามาด้วย
“โอม พุทธะเข้าบ้าน ธรรมมะ เข้าบ้าน สังฆะ เข้าบ้าน
พรหมมะ เข้าบ้าน เทวะ เข้าบ้าน เชิญครูบาอาจารย์
กันความชั่วไป สิ่งอัปมงคล ให้พ้นให้หาย เปิดบ้านทันใด ขอแต่มงคล สาธุ สาธุ”
ก่อนเปิดประตูเข้าบ้าน อย่ารีบร้อน อย่าร้อนใจ ให้ว่าคาถานี้ พร้อมไขกุญแจเปิดประตูบ้าน จะนำความสิริมงคลมาให้ทุกครั้งไป สิ่งใดชั่วช้าอัปมงคล จักพลันหาย ขลังดีนักแล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น